หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2561

กริพเพ่นผงาดน่านฟ้าดอนเมือง วันเด็กแห่งชาติ 2561

หลังจากมีข่าวเครื่องบินขับไล่กริพเพน ตกระหว่างแสดงการบินที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 60 ที่ผ่านมา ท่ามกลางสายตาของเด็กและผู้ปกครองหลายพันคน ปี 2561 นี้ทางกองทัพอากาศได้เรียกความเชื่อมั่นที่มีต่อเครื่องบินขับไล่ JAS-39C Gripen กลับคืน ด้วยการโชว์ลีลาแสนระทึกของ “ฉลามร้ายแห่งอันดามัน” วาดลวดลายเวียนว่ายบนท้องฟ้าสีครามเหนือน่านฟ้าดอนเมือง เมื่อวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 โดย นาวาอากาศเอก ณัฏฐวุธ ดวงสูงเนิน รองผู้บังคับการกองบิน 7 จ. สุราษฎร์ธานี เจ้าของฉายา ‘NEON’ หนึ่งในนักบินกริพเพน 4 คนแรกของไทย
เครื่องบินขับไล่ JAS-39 Gripen มีสองประเภท คือแบบที่นั่งเดี่ยว (JAS-39C Gripen) และ สองที่นั่ง (JAS-39D Gripen) ผลิตโดยบริษัท SAAB ของประเทศสวีเดน เป็นเครื่องบินขับไล่-โจมตีอเนกประสงค์ ที่ถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง ยืดหยุ่น มีปีกหน้าหรือคานาร์ด ทำให้สามารถไต่ระดับได้มากขึ้นและลดแรงฉุด เพิ่มความเร็วในการบิน พิสัยบินไกล (3,000 กม.) และบรรทุกได้มากขึ้นกว่าเดิม สามารถบินสกัดกั้นการโจมตีในทุกรูปแบบและทุกสภาพอากาศ อีกทั้งยังมีระบบการบินและระบบอาวุธที่ทันสมัย น่าเชื่อถือ และ สามารถพัฒนาเทคโนโลยีได้ เครื่องยนต์ RM12 ของ Volvo แรงขับสูงสุด 18,000 ปอนด์ (เมื่อเปิดสันดาปท้าย) ,ระบบเรดาร์ PS-05/A ของอิริคสัน ,เพดานบินปฏิบัติการ 15,000 เมตร มีความยาว 14.1 เมตร สูง 8.4 เมตร หนัก 5,700 กิโลกรัม โดยทางกองทัพอากาศไทย สั่งซื้อทั้งหมด 12 ลำ เมื่อปี พ.ศ.2551-2559 ด้วยงบประมาณ 34,400 ล้านบาท ประจำการที่ กองบิน 7 จ.สุราษฎร์ธานี
แม้กริพเพนจะมีขนาดไม่ใหญ่เท่าเครื่องบินรบรุ่นอื่น แต่ถือว่า “เล็กพริกขี้หนู” ของจริง เพราะเหนือกว่าเครื่องรุ่นอื่นในด้านระบบป้องกันภัยทางอากาศ ได้แก่ ระบบเครื่องบิน,เรดาร์, อาวุธ และ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ มีความสามารถมากกว่า F-16 หลายด้าน และนักบินผู้ขับเคลื่อนก็ต้องมากความสามารถ ประสบการณ์และชั่วโมงบินสูง และที่ขาดไม่ได้คือ “ภาษาอังกฤษ” ที่ต้องสื่อสารได้ดีไม่มีที่ติ เรียกได้ว่าใครได้ขับกริพเพนคือท๊อปของตัวท๊อป ที่ต้องฝ่าฟันด่านและอุปสรรคมากมายกว่าจะเรียกตัวเองได้ว่าเป็น “นักบินกริพเพน” / ที่มา: Chalinee Thirasupa

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น